OMEGA 690
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ชนิดพิเศษ
OMEGA 690 คือน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ชนิดใหม่แบบ CTA (Compensatory Thermostat Action) ที่มีคุณภาพเหนือกว่า APIGL-5 และ GL-6 โดยทั่วไปแล้ว แม้แต่ในน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ที่ดีที่สุดจะอยู่ในชั้นคุณภาพ GL–4 (หรือที่ดีมากๆ จะอยู่ในชั้น GL–5) และมีน้ำมันหล่อลื่นจำนวนน้อยมากๆ ที่สามารถเทียบเท่าข้อกำหนดชั้น GL-6
การยึดติดแบบเต็มที่ :
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 มีคุณสมบัติพิเศษในการยึดติดและติดตามเฟืองเกียร์และจะยึดติดไม่หลุดออก คุณลักษณะเฉพาะนี้ที่เป็นที่รู้จักกันดีของน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 เกิดขึ้นจากความไม่ประสบผลสำเร็จของผู้ที่พยายามเลียนแบบคุณสมบัตินี้ แต่อย่างไรก็ตามยังมีความแตกต่างระหว่างของเลียนแบบและของแท้ คุณภาพสูงจากน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 นั้นจะให้ฟิล์มบางๆ บนผิวโลหะโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกสลัดออก สิ่งนี้ทำให้เกิดความมั่นใจในน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ซึ่ง น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 จะสร้างลักษณะของการยึดติดที่มั่นคงน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ธรรมดาจะสลายตัว
ออกจากผิวหน้าโลหะแล้วปล่อยให้เกิดการเสียดทานโดยตรงและผิวหน้าโลหะสัมผัสกันโดยปราศจากการป้องกัน ซึ่งนำไปสู่การเกิดออกซิเดชั่นในตัวน้ำมันเองและเป็นสาเหตุของการกัดกร่อนในที่สุด
ปฏิกิริยาการชดเชยจากอุณหภูมิ ( CTA : Compensatory Thermostat Action ) :
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ประกอบด้วย Megalite Polymers ที่มีความสามารถในการชดเชยจากอุณหภูมิ เป็นจำนวนนับพันๆ ล้านโมเลกุล Megalite Polymers นี้สามารถชดเชยแนวโน้มตามธรรมชาติของฟิล์มน้ำมันหล่อลื่นที่บาง หรือข้นที่เกิดขึ้นจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น หรือต่ำลง และไม่คงที่ตลอดเวลาโดยโพลิเมอร์นี้จะขยายตัวเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น และสภาพของฟิล์มของน้ำมันจะบางลง และยังตอบสนองกับอุณหภูมิที่ต่ำ น้ำมันจะข้นและหนาขึ้นการหดตัว และขยายตัวชดเชยนี้จำเป็นต่อคุณภาพของสารหล่อลื่นและการปกป้องเกียร์ขณะใช้งาน
ความโดนเด่นของคุณสมบัติ CTA เฉพาะน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 จะให้การไหลที่ราบเรียบตลอดช่วงอุณหภูมิของการทำงาน และให้การหล่อลื่นที่สม่ำเสมอ มีสมรรถนะสูง และสามารถมั่นใจว่า น้ำมันหล่อลื่นจะยังคงอยู่ในสภาพใหม่ และยืดอายุการใช้งานของน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ออกไปอย่างมาก Megalite-Polymers นี้สามารถเปรียบเทียบได้กับม้วนโลหะสปริงเม็ดโพลิเมอร์เล็กๆ จะไวต่อการเปลี่ยนแปลงต่ออุณหภูมิ แม้เพียงเล็กน้อย ซึ่งทำให้เกิดการขยาย และหดตัวเล็กน้อย (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิขณะนั้นว่าร้อนหรือเย็น) เมื่ออุณหภูมิลดลงจะทำให้ขดสปริงนี้หดตัวทันทีทำให้เกิดการไหลเวียนของสารหล่อลื่นลักษณะเดียวกับน้ำมันใหม่ๆ และสร้างช่องว่างสำหรับแรงเสียดทานให้มีลักษณะเดียวกับสภาวะการใช้งานทั่วๆไป สารหล่อลื่นนี้จะยับยั้งการเกิดความหนืดมากเกินไปในลักษณะเดียวกันกับในกรณีที่อุณหภูมิสูงขึ้นก่อนที่น้ำมันจะเกิดการบางตัว และเริ่มลอยตัวในช่องว่าง โพลิเมอร์ จะขยายตัว ซึ่งการขยายตัวนี้จะเท่ากับการเติมสารหล่อลื่นเดิม และดังนี้มันจะช่วยรักษาความเสถียรของความหนืดที่เป็นคุณสมบัติตามที่ต้องการในการหล่อลื่นที่สะดวกราบรื่นหากไม่มีคุณสมบัติ CTA ดังเช่นที่มีในน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ลักษณะของน้ำมันจะหนาขึ้นและหนักขึ้น ตามอุณหภูมิที่ลดลงทำให้การเคลื่อนไหวได้ยากการเปลี่ยนถ่ายออกได้ยากจากการหน่วงเพิ่มความสิ้นเปลืองและการก่อตัวของสารต่างๆ และจะกลายเป็นคราบแข็งก็จะเกิดการอุดของระบบและไส้กรองในสภาวะอากาศร้อนอุปกรณ์จะเกิดการสึกหรออย่างรวดเร็วและเกิด “hot spot” ภายในขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปเป็นความเหนียวและความหนืด สร้างการก่อตัวของคาร์บอนน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ไม่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายสูงและข้อบกพร่องอื่นๆ เนื่องจากการพัฒนา CTA
ทนต่อสภาวะ และแรงกดดันสูงมาก :
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 มีสารเติมแต่งการต้านทานแรงกดดันสูงที่คงตัวอย่างมากและมีการปรับเทียบอย่างละเอียด ข้อดีเพิ่มเติมของสารเติมแต่งนี้คือ มันมีความสามารถในการต้านทานการกัดกร่อน, การเกิดออกซิเดชั่น, ล้างออกได้ด้วยน้ำและอีกหลากหลายนาๆ นับประการที่เหนือกว่าน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ธรรมดาทั่วไปสารเติมแต่งที่ทนต่อแรงกดดันสูงพิเศษนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อให้ยังคงสมรรถนะในการหล่อลื่นและการใช้งานของงานในลักษณะดังนี้:
| 
 Load  | 
 Inductance  | 
 Limited Radiation  | 
| 
 Compression  | 
 Displacement  | 
 High Pressure Displacement  | 
| 
 Impact  | 
 Contact Migration  | 
 Explosive Migration  | 
| 
 Shock  | 
 Surface Depolarization  | 
 Implosive Fragmentation  | 
| 
 Impression  | 
 Capacitance  | 
 Reverberation  | 
| 
 Thermal Conductivity  | 
 Contact Chaff  | 
 
  | 
สารปรับปรุงความฝืด :
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ประกอบด้วยสารปรับปรุงความฝืด ที่ถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ซึ่งสารปรับปรุงถูกพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ และน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 เป็นหนึ่งในผู้เลือกใช้เพียงไม่กี่รายที่มีให้กับน้ำมันหล่อลื่นเกียร์เสริมสมรรถนะสูงอย่างมากนี้
สมรรถนะใน การหล่อลื่นกับเฟืองท้ายระบบลิมิเต็ดสลิป LIMITED SLIP DIFFERENTIAL :
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ให้ผลที่ดีเยี่ยมในการใช้งานกับ LIMETED SLIP DIFFERENTIAL ในทางกลับกันน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ทั่วๆ ไปจะทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานเกิดการฉุดและการสูญเสียน้ำมันหล่อลื่นในบริเวณที่เกิดเสียดสี
สมรรถนะใน การหล่อลื่น กับเฟืองเกียร์ไฮปอยด์ :
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 สามารถใช้งานได้กับเฟืองเกียร์ไฮปอยด์ ที่มีเฟืองขับเล็กกว่า 25% ของเฟืองตาม หรือเฟืองขับ และเฟืองตาม มีระยะเยื้องของเพลาระหว่างกันมากกว่า 2 นิ้ว (50 ม.ม.) การใช้น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ธรรมดา ที่มีสมรรถนะเทียบเท่าตามกับข้อกำหนด API GL-4/5 ซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งานในลักษณะเช่นนี้ได้
ความสามารถในการกันน้ำ :
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 มีความสามารถในการป้องกันน้ำ และป้องกันการชะล้างออกด้วยน้ำมีความต้านทานต่อการกลั่นตัวของน้ำและความชื้นฝนและน้ำหรือความชื้นในรูปแบบอื่นๆ ที่มาสัมผัส ซึ่งจะไม่เกิดการบางตัวลงหรือเกิดการปนเปื้อน
ความสามารถ และสมรรถนะในการต้านทานการสั่นสะเทือน :
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ช่วยลดเสียงดังในระบบเกียร์ได้อย่างมากมันยังช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วน, การขีดสี, การขัด, การสึกเป็นรู, และการเสียดสี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของเสียงดัง(และการสึกหรอ) น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ช่วยให้การทำงานของเฟืองเกียร์และห้องเกียร์เรียบและเงียบมากขึ้น
ข้อมูลทั่วไป:
OMEGA 690 สามารถแบ่งออกได้เป็น 6 เกรดแตกต่างกันดังนี้:
OMEGA 690 SAE 90
OMEGA 690 SAE 140
OMEGA 690 80W90
OMEGA 690 85W140
OMEGA 690 SAE 75W90
OMEGA 690 SAE 75W 140
- ข้อกำหนดทางการทหาร
 
OMEGA 690 มีความสามารถเทียบเท่า หรือสูงกว่ามาตรฐานกองทัพสหรัฐอเมริกาดังนี้
MIL - L - 2105D MIL - PRF - 2105E
| 
 TEST  | 
 ASTM TEST METHOD  | 
 SAE 90  | 
 SAE 140  | 
 80 W 90  | 
 85 W 140  | 
 75 W 90  | 
 75 W 140  | 
 ISO VG 460  | 
| 
 ISO Viscosity Grade  | 
 D-2422  | 
 150  | 
 320  | 
 150  | 
 320  | 
 100  | 
 220  | 
 460  | 
| 
 Appearance  | 
 Visual  | 
 Red  | 
 Red  | 
 Red  | 
 Red  | 
 Red  | 
 Red  | 
 Red  | 
| 
 Density kg/L @150°C  | 
 D-1298  | 
 0.901  | 
 0.902  | 
 0.901  | 
 0.902  | 
 0.903  | 
 0.884  | 
 0.913  | 
| 
 Viscosity, cSt @ 40°C  | 
 D-445  | 
 166  | 
 343  | 
 166  | 
 343  | 
 103  | 
 197  | 
 460  | 
| 
 @100°C  | 
 D-445  | 
 16.4  | 
 26  | 
 16.4  | 
 26  | 
 14.5  | 
 25  | 
 32  | 
| 
 Viscosity Index  | 
 D-2270  | 
 103  | 
 102  | 
 103  | 
 102  | 
 145  | 
 160  | 
 102  | 
| 
 Flash Point, COC, °C (°F)  | 
 D-92  | 
 219 (426)  | 
 222 (432)  | 
 219(426)  | 
 222 (432)  | 
 165 (329)  | 
 155 (311)  | 
 222(432)  | 
| 
 Fire Point, COC, °C (°F)  | 
 D-92  | 
 237 (459)  | 
 249 (480)  | 
 237 (459)  | 
 249 (480)  | 
 183 (361)  | 
 
  | 
 245 (473)  | 
| 
 Pour Point, °C (°F)  | 
 D-97  | 
 -28 (-18)  | 
 -20 (-4)  | 
 -28 (-18)  | 
 -20 (-4)  | 
 -45 (-49)  | 
 -45 (-49)  | 
 -24(-11)  | 
| 
 TAN, mg KOH/g  | 
 D-974  | 
 4.6  | 
 4.6  | 
 4.6  | 
 4.6  | 
 4.6  | 
 4.6  | 
 4.6  | 
| 
 Foam Characteristics  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
| 
 All Sequence, After Setting  | 
 D-982  | 
 Nil  | 
 Nil  | 
 Nil  | 
 Nil  | 
 Nil  | 
 Nil  | 
 Nil  | 
| 
 Copper Strip Corrosion  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
 
  | 
| 
 3 hrs. @100°C  | 
 D-130  | 
 1b  | 
 1b  | 
 1b  | 
 1b  | 
 1b  | 
 1b  | 
 1b  | 
| 
 Four Ball, Ware Scar Diameter, mm  | 
 D-2266  | 
 0.28  | 
 0.28  | 
 0.28  | 
 0.28  | 
 0.28  | 
 0.28  | 
 0.28  | 
| 
 Four Ball,Weld Load ,Kg  | 
 D-2596  | 
 >450  | 
 >450  | 
 >450  | 
 >450  | 
 >450  | 
 >450  | 
 >450  | 
| 
 Timken, OK Load, lbs  | 
 D-2782  | 
 70  | 
 70  | 
 70  | 
 70  | 
 70  | 
 70  | 
 70  | 
| 
 FZG, Pass stages  | 
 DIN51354  | 
 12  | 
 12  | 
 12  | 
 12  | 
 12  | 
 12  | 
 12  | 
| 
 Sulpher, %mass.  | 
 D.129  | 
 1.90  | 
 1.90  | 
 1.90  | 
 1.90  | 
 1.90  | 
 1.90  | 
 1.90  | 
| 
 Phosphorus, % mass.  | 
 D-1091  | 
 0.075  | 
 0.075  | 
 0.075  | 
 0.075  | 
 0.075  | 
 0.075  | 
 0.075  | 
| 
 *Exclude Suplier due to base oil  | 
 
  | 
 
  | 
||||||
- ข้อกำหนดจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน
 
API GL - 5 API GL – 6
- ข้อกำหนดจากอุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์
 
FORD ESW - M2C - 104A, ESW - M2C-119A, ESW - M2C - 105A.
GENERAL MOTORS 9985169, 9985035, HN1561
AMERICAN MOTORS HM4043
BARG WARNER 5M.35.
MACK GO - H, MARK GO – J
- ข้อกำหนดจากโรงงานอุตสาหกรรม
 
US STEEL 224
CINCINNATI MILACRON,
AGMA 250.04, 251.02
( เหล่านี้เป็นผลจากผู้ผลิตไม่กี่ราย )
คุณลักษณะและการนำไปใช้งาน:
ใส่ในห้องเกียร์ครั้งแรกหรือใส่เพิ่มเติมใน
- ระบบส่งกำลังในรถยนต์ ( เกียร์ และเฟืองท้าย )
 - ระบบ Hypoid Differential (โดยเฉพาะในเฟืองท้ายระบบลิมิเต็ดสะลิป )
 - ห้องเกียร์บอกที่ใช้งานหนักในอุตสาหกรรมทั่วไป
 
ข้อมูลทั่วไป
พิกัดระดับสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ( SAE 75 W 140 ):
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ที่ผ่านระดับมาตรฐาน SAE 75 W 140 ด้วยสารปรับปรุงคุณภาพสูงบดสำเร็จพิเศษ สามารถใช้งานได้ดีทั้งในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำและสูงและสร้างฟิล์มน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ที่ทนอุณหภูมิสูงได้ดีเยี่ยม
สมรรถนะในการใช้งานในที่อุณหภูมิต่ำ:
น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 SAE 75 W 140 เป็นสูตรที่สามารถใช้งานที่บริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำถึง - 40OC ได้ดีเยี่ยมมันช่วยทำให้เฟืองขับทำงานได้เรียบและเงียบทั้งที่อยู่ในบริเวณทุรกันดาร ซึ่งจะยังสามารถรักษาความหนืด เพื่อป้องกันการเกิดการสึกหรอของผิวโลหะทุกรูปแบบหลังจากการอุ่นเครื่อง
สมรรถนะ และความประหยัดเชื้อเพลิง:
           เนื่องจากเป็นมันน้ำมันที่มีดัชนีการฉุดต่ำที่มักเกิดขึ้นเมื่อสตาร์ทน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ 
OMEGA 690 SAE 75 W 140 จะช่วยให้เกิดการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นถึง 5% เมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันหล่อลื่นเกียร์เกรดทั่วไป
มีความเสถียร และด้านแรงเฉือนที่โดดเด่น:
เนื่องจากการสึกหรอจากการเฉือนในการใช้งาน ซึ่งน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ระดับ Multigrade ธรรมดาและน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ Multigrade ที่ไม่มีสารป้องกันการฉุดตัวอาจจำเป็นต้องปิดตัวลงสำหรับน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานหนักเมื่อใช้ทดสอบในรถ Volkswagen KRL พบว่าความหนืดลดลงเพียง 5% เท่านั้น
สมรรถนะที่พิเศษสุดยอด:
เช่นเดียวกับน้ำมันหล่อลื่นเกียร์เกรดอื่นๆ น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ OMEGA 690 SAE 75 W 140 มีสมรรถนะที่เทียบเท่า หรือเกินกว่ามาตนฐาน API GL-6 ซึ่งช่วยป้องกันเกียร์ และชุดเฟืองเกียร์ได้ทั้งที่น้ำมันหล่อลื่นเกียร์ในปัจจุบันนี้ ทั้งหมดเกือบจะมีมาตรฐานเทียบเท่าเพียงข้อกำหนดมาตรฐาน API GL-5
				













